รีวิว Nissan Navara Black Edition ขุมพลัง 2.3 Twin-Turbo 190 แรงม้า ชุดแต่งรอบคัน ราคาไม่ถึงล้าน!!
- TG TURBO
- Aug 15, 2022
- 1 min read

เรียกได้ว่า Nissan ได้ปรับกลยุทธ์ทางการตลาดใหม่ ปรับราคาลงมางัดในทุกเซ็กเมนต์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับตลาดรถกระบะ ที่ล่าสุดได้เปิดตัว New Nissan Navara Black Edition ที่เป็นการนำเอารุ่น Calibre E มาสวมชุดแต่งสปอร์ต พร้อมเพิ่มอ็อพชั่น เติมความคุ้มค่า
แม้ว่าตัวโปรดัคจะไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลงในส่วนของขุมพลัง หรือช่วงล่างให้พูดถึงมากนัก แต่จากการที่เราได้ไปสัมผัสกับ Nissan Navara Black Edition อย่างละเอียด ก็พบว่านี่คือรถกระบะ 4 ประตูรุ่นตกแต่งพิเศษที่มีความคุ้มค่าคุ้มราคาที่สุดในตลาด ซึ่งหัวใจสำคัญอยู่ที่การได้ขุมพลัง 2.3 ลิตร Twin-Turbo 190 แรงม้ามาใช้งาน



เหตุผลที่บอกว่าเจ้า Black Edition มันคุ้มซะยิ่งกว่าคุ้ม ก็คือ การได้ขุมพลัง 2.3 ลิตร Twin-Turbo เกียร์อัตโนมัติ 7 สปีด ซึ่งติดตั้งอยู่ในรุ่นท็อปสุดแบบเดียวกับ PRO4X ให้กำลังสูงสุด 190 แรงม้า แรงบิด 450 นิวตัน-เมตร ซึ่งเป็นสมรรถนะที่สูงเป็นเบอร์ต้นๆ ของรถกระบะที่มีขายในไทย อีกทั้งยังเป็นเครื่องแบบเทอร์โบคู่ ซึ่งจะช่วยในเรื่องของความประหยัด และมอบอัตราเร่งที่ดีทั้งรอบต่ำ และรอบสูง ซึ่งคุณไม่สามารถหาซื้อรถกระบะเครื่องยนต์ Twin-Turbo ในราคานี้จากแบรนด์อื่นได้อย่างแน่นอน
นอกเหนือไปจากขุมพลังของตัวท็อปแล้ว ในรุ่นย่อย Black Edition นี้ ยังมีขุมพลังแบบ 2.3 ลิตร VGS Turbo (เทอร์โบเดี่ยว) 163 แรงม้า แรงบิด 403 นิวตัน-เมตร เกียร์ธรรมดา 6 สปีด ให้เลือกใช้งานกันอีกด้วย แถมยังมีตัวถังให้เลือกครบทั้ง Double Cab และ King Cab




โดยความเท่ที่ถูกอัปเกรดในรุ่น Calibre E ใน MY2022 คือการได้รับชุดแต่ง Black Edition ทั้งภายนอก-ภายใน ไม่ว่าจะเป็น
กระจังหน้า Black Interlock
กระจกมองข้างครอบสีดำ
ชุดโป่งล้อสไตล์สปอร์ตออฟโรด
ล้ออัลลอยเพิ่มขนาดจาก 17″ เป็น 18″ สีดำสไตล์สปอร์ต
สติ๊กเกอร์ Black Edition บ่งบอกความเป็นรุ่นพิเศษ
เสาอากาศครีบฉลามสีดำ


ส่วนภายในของ Nissan Navara Black Edition จะได้รับการตกแต่งสะท้อนภาพลักษณ์ที่สปอร์ตพรีเมียม ด้วยการตกแต่งภายในโทนสีดำ ได้แก่ ช่องแอร์ มือจับประตู ที่วางแก้ว ฐานเกียร์ ที่พักแขนที่ประตู และขอบประตู
และยังคงเพียบพร้อมไปด้วยอุปกรณ์มาตรฐานตามแบบฉบับของรถกระบะ Nissan Navara ไม่ว่าจะเป็น พวงมาลัยมัลติฟังก์ชั่นท้ายตัด D Shape, ปุ่ม Push Start, หน้าปัดเรือนไมล์ดิจิตอลจอสี 3 มิติขนาด 7″, หน้าจออินโฟเทนเมนท์ระบบสัมผัสขนาด 8″ รองรับการเชื่อมต่อ Apple CarPlay และ Android Auto, ระบบแอร์อัตโนมัติแยกอิสระซ้าย-ขวา พร้อมช่องแอร์หลัง, กระจกมองหลังตัดแสงอัตโนมัติ
แต่สิ่งที่รุ่น Black Edition ต่างจากรุ่นท็อปอย่าง PRO4X ก็คือ เบาะนั่งที่เป็นแบบผ้า ไม่ใช่เบาะหนังกันความร้อน Quole Modure และไม่ได้รับเบาะปรับไฟฟ้าก็เท่านั้นเอง


ระบบความปลอดภัย ต้องบอกว่า Nissan Navara Black Edition นั้นมีมาให้เพียงพอต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน โดยอุปกรณ์มาตรฐานความปลอดภัยหลักๆ มีมาให้ครบ ไม่ว่าจะเป็น ระบบเบรก ABS/EBD/BA, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า, ระบบป้องกันการลื่นไถล ABLS, ระบบควบคุมการทรงตัว VSC
และยังมีระบบช่วยเหลือการขับขี่อย่าง ระบบช่วยออกตัวบนทางลาดชัน HSA, ระบบกล้องอัจฉริยะรอบทิศทาง 360 องศา IAVM และระบบเตือนวัตถุเคลื่อนไหวรอบคัน MOD มาให้ด้วย
ในส่วนของระบบช่วงล่างต้องบอกว่ากลมกล่อม จัดเป็นรถกระบะที่นั่งได้สบาย ไม่แข็งกระด้าง โดยในบอดี้ 4 ประตู จะถูกเซ็ทมาเพื่อรองรับการนั่งของผู้โดยสารเป็นหลัก จะไม่ใช่รถกระบะที่ถูกเซ็ทแหนบหลังเอาไว้สำหรับการบรรทุก แต่ก็ยังสามารถรองรับการโหลดน้ำหนักบรรทุกได้สบายๆ ใช้งานได้อรรถประโยชน์ตามสไตล์รถกระบะ

บทสรุป
ถ้าคุณไม่มีความจำเป็นต้องใช้ระบบขับเคลื่อน 4 ล้อ ผมบอกได้เลยว่า Nissan Navara Black Edition เป็นรถกระบะที่มีความครบเครื่อง และคุ้มค่า ทั้งในเรื่องของความแรง ความประหยัดน้ำมัน อุปกรณ์มาตรฐานครบครัน ฟีเจอร์ความปลอดภัยโดดเด่นกว่ารุ่นอื่นๆ ที่มีราคาสูงกว่า และที่สำคัญคือความโดดเด่นของความเป็นรุ่นตกแต่งพิเศษ ที่มีราคาจำหน่ายที่เข้าถึงได้ง่ายที่สุดในบรรดารถกระบะเครื่องยนต์ Twin-Turbo
ราคาจำหน่าย Nissan Navara Black Edition
KC Calibre E 6MT Black Edition ราคา 799,000 บาท
KC Calibre E 7AT Black Edition ราคา 849,000 บาท
DC Calibre E 6MT Black Edition ราคา 884,000 บาท
DC Calibre E 7AT Black Edition ราคา 934,000 บาท
ขอบคุณข้อมูลข่าวสารจาก https://autostation.com/category/news
Comentários